สารจากประธานกรรมการ

ปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีแห่งบทพิสูจน์ความแข็งแกร่งในธุรกิจสําหรับกลุ่มบริษัทศรีไทยฯที่สามารถยืนหยัด เติบโต และก้าวข้ามวิกฤติและอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจพลาสติกอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่มและกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ในครัวเรือนหรือเมลามีน โดยเฉพาะการเติบโตของธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯในประเทศเวียดนาม ทําให้ภาพรวมกลุ่มบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น ร้อยละ 25 เป็น 9,371 ล้านบาท และกําไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 93 เป็น 350 ล้านบาท ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจของโลกที่เริ่มฟื้นตัวจากผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งปัจจัยภายในและภายนอกภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ต่อเนื่องมากว่า 3 ปี นอกเหนือจากผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงยืดเยื้อ ราคาน้ำมันและราคาวัตถุดิบที่ผันผวน ราคาพลังงาน อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ยังเพิ่มสูงขึ้น

กลุ่มบริษัทศรีไทยฯมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการต่างๆ ที่ได้ดําเนินการไปแล้วและที่อยู่ในแผนงานที่จะริเริ่มดําเนินการต่อไป โดยให้ความสําคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะตอบสนองต่อแนวโน้มของอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่รวดเร็ว การให้ความสําคัญและลงทุนด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการองค์กรพร้อมกับการขยายตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ E-commerce รวมถึงการเพิ่มช่องทางการขาย online ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ การสร้างโรงงานเมลามีนแห่งใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดดําเนินงานได้ภายในไตรมาส 2 ปี พ.ศ. 2566 เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจผลิตภัณฑ์เมลามีนในประเทศเวียดนาม รวมถึงการมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสการเติบโตในธุรกิจใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมที่มีความ น่าสนใจในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า อุปกรณ์ทางการแพทย์และอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ บริษัทฯยังให้ความสําคัญกับบุคลากรโดยยกระดับและสร้างทักษะใหม่ในการพัฒนาและฝึกอบรมพนักงานพร้อมเสริมทีมผู้บริหารมืออาชีพรุ่นใหม่เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพและความสามารถของบุคลากร รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้กับพนักงานทุกระดับตามหลัก ROFO ได้แก่ ความรับผิดชอบในงาน (Responsibility) ตลอดจนมีทัศนคติในความเป็นเจ้าของงาน (Ownership) มุ่งมั่นที่จะให้งานนั้นสําเร็จลุล่วงตามเวลาที่กําหนด (Focus) และตอบสนองและแก้ไขได้อย่างทันท่วงที (On-time corrective action)

ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯได้แสดงออกถึงจุดยืนที่ชัดเจนในเรื่องของความยั่งยืนโดยคํานึงถึง “หลัก ESG” ได้แก่ มิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) บริษัทฯได้เข้าร่วมการบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและผ่านการประเมินตามหลักการคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์กรมหาชน) รวมถึงได้ดําเนินโครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ภายในบริเวณพื้นที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมบางปู สมุทรปราการ และโรงงานนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี และมีเป้าหมายลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ในอีก 30 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯขับเคลื่อนและเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว มิติด้านสังคม (Social) บริษัทฯให้ความสําคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคม โดยบริษัทฯได้รับรางวัลองค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการดีเด่น ระดับ “ดีเยี่ยม” เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากการส่งเสริมผู้พิการเข้าทํางาน สนับสนุนการ อบรมฝึกงานเตรียมความพร้อมในการเข้าทํางาน เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ให้กับผู้พิการ และมิติด้านบรรษัทภิบาล (Governance) บริษัทฯมีเจตนารมณ์ส่งเสริมให้บริษัทฯเป็นองค์กรที่มีการกํากับดูแลกิจการที่ดี โปร่งใส และตรวจสอบได้ และคํานึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน จนได้รับการประเมินผลการกํากับดูแลกิจการที่ดี (CGR) ระดับ “ดีเลิศ” เป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย

ปี พ.ศ. 2566 ที่จะมาถึงนี้ เป็นปีที่บริษัทฯเดินทางมาครบรอบ 60 ปีด้วยความภาคภูมิใจในฐานะหนึ่งในบริษัทชั้นนําของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกและเมลามีน ด้วยประสบการณ์และพัฒนาการอย่างต่อเนื่องมายาวนาน บริษัทฯยังคงมุ่งมั่นในด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสานต่อนวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และผลงานที่ตอบสนองต่อลูกค้าด้วยคุณภาพอย่างยั่งยืนสืบไป จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในด้านต่างๆ ในโลกยุคปัจจุบันและกระแสนิยมของคนรุ่นใหม่ บริษัทฯได้พัฒนาช่องทางการขาย online รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ทันสมัยนิยมมากขึ้น บริษัทฯเชื่อมั่นว่าจะสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนภายใต้หลักบรรษัทภิบาลที่ดีในฐานะผู้นํากลุ่มอุตสาหกรรมของประเทศและระดับสากล

สุดท้ายนี้ ในนามของคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารและพนักงานของกลุ่มบริษัทศรีไทยฯ ผมขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น พันธมิตรทางธุรกิจ คู่ค้า ลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกท่านที่ได้ให้ความไว้วางใจ สนับสนุนการดําเนินงาน พร้อมทั้งช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มบริษัทศรีไทยฯ ด้วยดีมาโดยตลอด ผมเชื่อมั่นว่า กลุ่มบริษัทจะดําเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและพร้อมที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มของกลุ่มบริษัท

นายสนั่น อังอุบลกุล

ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ