ผลประเมินด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี

ดีเลิศ

บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญในการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และทันเวลาอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ ทั้งข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ สถานการณ์ทางการเงิน และผลการดำเนินงาน และข้อมูลที่มิใช่ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ โครงสร้างผู้ถือหุ้น การกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ และข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นและบุคคลภายนอก โดยหน่วยงานนักลงทุนสัมพันธ์ รับผิดชอบนำเสนอข้อมูลต่างๆ อย่างถูกต้อง ครบถ้วน เป็นปัจจุบัน และสามารถเข้าถึงได้ผ่านทุกช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด เพื่อให้นักลงทุนและบุคคลภายนอกสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลราคาหลักทรัพย์

ปรับปรุงเมื่อ : 18 เม.ย. 2567 16:35

SITHAI (THB)

1.17

เปลี่ยนแปลง(% เปลี่ยนแปลง)

-(-%)

ปริมาณซื้อขาย (หุ้น)

1,091,501

ราคาเสนอซื้อ / ปริมาณซื้อขาย (หุ้น)

1.17 / 492,700

ช่วงราคาระหว่างวัน

1.17 - 1.19

ราคาเปิด

1.17

วันก่อนหน้า

1.17

ช่วงราคาใน 52 สัปดาห์

1.07 - 1.52

ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท

เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2565 สําหรับไตรมาส 4/2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายจํานวน 2,083 ล้านบาท ลดลง จํานวน 300 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.6 การลดลงมาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่องานอุตสาหกรรมเป็นหลักทั้งจากกิจการใน ประเทศและต่างประเทศ อันเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ชะลอตัวกระทบกําลังซื้อ การอุปโภคบริโภคลดลง รวมถึงราคาขายสินค้าที่ลดลงตามราคาวัตถุดิบหลักที่ลดลง ขณะที่ยังรักษาระดับกําไรขั้นต้นได้ โดยมีอัตรากําไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 15.3 จากร้อยละ 14.1 และ EBITDA margin เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 14.0 จากร้อยละ 10.7 และมีกําไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จํานวน 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 84.2 หรือ 48 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจํานวน 32 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.6 มาจากกลุ่ม ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนของกิจการในประเทศเป็นหลัก อัตรากําไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็นร้อยละ 15.3 จากร้อยละ 14.3 EBITDA margin ปรับเพิ่มขึ้น เป็นร้อยละ 14.0 จากร้อยละ 13.3 ทั้งนี้ มีกําไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.5 หรือ 10 ล้านบาท

ภาพรวมผลการดําเนินงานสําหรับปี 2566 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายจํานวน 8,550 ล้านบาท ลดลงจํานวน 821 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่องานอุตสาหกรรมและกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือนของทั้งกิจการในประเทศและต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ รวมถึงภาวะทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยและต้นทุนพลังงานที่กระทบกําลังซื้อของผู้บริโภค ขณะที่ต่างประเทศยังเผชิญกับความไม่แน่นอนของสงครามรัสเซีย-ยูเครน อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อ โดยในปี 2566 ทั้งปีมี EBITDA margin เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเป็นร้อยละ 13.0 จากร้อยละ 12.1 นอกจากนี้บริษัทฯมีการบันทึกรายการพิเศษในไตรมาส 4/2566 รวม 29 ล้านบาท โดยหลักมาจากรายการกําไรจากการจําหน่ายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนสุทธิด้วยภาษีและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องจํานวน 46 ล้านบาท และ รายการขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ถาวรจํานวน 17 ล้านบาท ส่งผลให้กําไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ เท่ากับ 372 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจํานวน 22 ล้านบาทจาก 350 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 โดยมีกําไรสุทธิส่วนที่เป็นผู้ถือหุ้น ของบริษัทฯต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 0.13 บาทเป็น 0.14 บาท

เอกสารเผยแพร่ล่าสุด